PROTECT YOURHOME THAI TEL.090-403-8339

ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ PROTECT YOURHOME THAI   (โพรเทค ยัวร์โฮม ไทย)     บริการวิชาชีพ ตรวจโครงสร้างอาคารเก่า ตรวจรับบ้านและคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ บริหารควบคุมงานก่อสร้าง โดยวิศวกรผู้ตรวจสอบอาคารตามมาตรา 32 ทวิ เลขทะเบียน 3706/2567

  ทีมงาน PROTECT YOURHOME THAI (โพรเทค ยัวร์โฮม ไทย) บริการวิชาชีพตรวจโครงสร้างอาคารเก่า ตรวจรับบ้านและคอนโด พร้อมรับเป็นที่ปรึกษาควบคุมงานขณะก่อสร้างบ้านด้วยวิศวกรตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างด้านอสังหาริมทรัพย์ประสบการณ์ตรงกว่า 30 ปี       ผ่านการอบรมหลักสูตรการบริหารงานก่อสร้าง การควบคุมงานก่อสร้างและทดสอบวัสดุ                                                                                     จัดอบรมโดย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชูปถัมภ์

ตรวจเองทุกครั้ง ตามหลักวิศวกรรมควบคุมงานก่อสร้าง และ คำนึงถึงจรรยาบรรณวิชาชีพโดยเคร่งครัด

ให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องบ้านโดยละเอียดตลอดเวลาทำการ มี  เอกสารการดูแลรักษาบ้าน การต่อเติมบ้าน ชนิดของรอยร้าว ให้ลูกค้าทุกท่านฟรี

– ทีมงานวิศวกรที่ใบอนุญาติประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกรรม พ.ศ. 2542

– เป็นสมาชิกสภาวิศวกรเลขที่ 226346

– เป็นสมาชิกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เลขที่ 4/032965

– เป็นสมาชิกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารเลขที่ 01244 

–  ผู้ตรวจสอบอาคารตามมาตรา 32 ทวิ เลขทะเบียน 3706/2567 

บริการการตรวจสอบของเรา

งานพื้น

ตรวจสอบถามวิธีการปูกระเบื้อง ทดสอบเคาะกระเบื้องพื้น มีการร่อนโพรงหรือไม่ รวมถึงงานพื้นปาเก้ หินขัด หินอ่อน การขังน้ำเทสต์สโลปพื้นกระเบื้องห้องน้ำ ระเบียง เฉลียง เเละลานจอดรถ

งานผนัง

ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ก่อ หรือผนังสำเร็จรูป วิธีขั้นตอนการฉาบผนัง ชนิด ยี่ห้อสีที่ใช้ทาผนังทั้งภายในและภายนอก ความเรียบ ของรอยต่อแผ่น วอลเปเปอร์ และที่สำคัญรอยร้าว รอยเเคร๊กผนัง

งานประตูและหน้าต่าง

ตรวจทดสอบการใช้งานจริง วัสดุอุปกรณ์ ซีลีโคนชนิดกระจกที่ติดตั้ง รอยร้าวระหว่างผนังกับวงกบ ทดสอบการรั่วซึมโดยการฉีดน้ำด้วย WATER JET มีการรั่วซึมเข้าภายในบ้านหรือไม่

งานเพดานและฝ้า

ตรวจสอบฝ้าเพดานทั้งภายในเเละภายนอก งานสี ความเรียบร้อยสวยงามในการติดตั้งฝ้า รวมถึงการตรวจสอบรอยน้ำซึมบนฝ้าเพดาน และโครงเคร่า

ระบบน้ำ

ตรวจสอบรอยรั่วซึม การทำงานของระบบน้ำเสีย บ่อบำบัด บ่อพักน้ำรอบบ้าน ระบบน้ำดีเเละสุขภัณฑ์ภายในบ้าน ทดสอบเเรงดันระบบปั๊มน้ำ เเละอื่นๆ

ระบบไฟฟ้า

ตรวจสอบตู้ควบคุมวงจรระบบไฟฟ้าภายในบ้านเเละนอกบ้านทั้งระบบ ตรวจทดสอบระบบไฟฟ้าลัดวงจร G-L-N ระบบสัญญาณอินเทอเนต และอื่นๆ

งานโครงสร้างบ้าน / อาคารเก่า

ตรวจสอบเสถียรภาพโครงสร้าง ระดับพื้น ผนังอาคาร สำรวจโดยกล้องสำรวจภายนอกและเลเซอร์ภายในอาคาร ว่ามีการทรุดเอียง แคร็ก เเตกร้าวหรือไม่ พร้อมทั้งการทดสอบกำลังอัดของโครงสร้าง ด้วยเครื่องมือทดสอบชนิดไม่ทำลายโครงสร้าง (REBOUND HAMMER ASTM C 805)

งานหลังคา

ตรวจสอบว่าหลังคาบ้านของท่าน สามารถป้องกันน้ำฝนได้หรือไม่ รวมทั้งใต้หลังคา บนฝ้าเพดาน ตรวจการยึดติดตั้งโครงคร่าวฝ้าเพดาน การติดตั้งเเละชนิดฉนวนกันความร้อนสายไฟบนฝ้าเพาน เดินท่อร้อยสายหรือไม่ พร้อมทั้งความสะอาดบนฝ้าเพดานรวมทั้งหมดพื้นที่ใต้หลังคา

งานพื้นที่นอกตัวบ้าน

ตรวจสอบพื้นที่ใช้สอยนอกตัวบ้านทั้งหมด อาทิเช่น รั้วเหล็กประตูหน้าบ้าน รั้วกำแพงด้านข้างเเละด้านหลังบ้าน พื้นเฉลียง ผนังภายนอก พื้นดินโดยรอบบ้านมีการทรุดหรือไม่ เเละงานระบบสาธารณูปโภค อาทิเช่น บ่อบำบัด บ่อดักไขมัน บ่อดักกลิ่น บ่อพักน้ำรอบบ้าน บ่อสายกราวซ์ ถังน้ำดี ปั้มน้ำ มิเตอร์น้ำ

ส่วนหนึ่งของลูกค้าที่ไว้วางใจเราในการตรวจรับบ้านก่อนโอนกรรมสิทธิ์

รางวัลผลงานวิชาชีพด้านวิศวกรรม

เกียรติบัตรวิชาชีพด้านวิศวกรรม

งานบริการวิชาชีพตรวจสอบโครงสร้างอาคารเก่า ด้วยเครื่องมือทดสอบชนิดไม่ทำลายโครงสร้าง (REBOUND HAMMER TEST C 805 ) 

การวัดค่าการสะท้อนด้วย Schmidt Hammer ค้อนกระแทกแบบ Schmidt Hammer เป็นเครื่องมือทดสอบคอนกรีตแบบไม่ทำลายที่เป็นที่นิยมในการวัดกำลังอัดคอนกรีต อันเนื่องจาก

ความรวดเร็วในการทดสอบ และราคาที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการเจาะตัวอย่างทดสอบเพื่อทำการทดสอบ โดยหลักการแล้ว ค้อนกระแทก REBOUND HAMMER 

เป็นเครื่งมือวัดความแข็งของผิวคอนกรีต ค่ากำลังอัดที่ได้นั้นเป็นการแปลงมาจากค่าความเเข็งของผิวคอนกรีต

งานบริการวิชาชีพตรวจสอบเสถียรภาพโครงสร้างอาคารเก่า ใหม่หรืออาคารสำนักงานเพื่อต้องการรีโนเวท เปลี่ยนการใช้อาคาร ทำการเช็คตรวจสอบระดับพื้น ผนัง สำรวจด้วยกล้องเซอร์เวย์ เลเซอร์ อาคารเกิดการทรุด เอียง แตกร้าว เกิดการวิบัติต่อโครงสร้างหรือไม่

งานบริการวิชาชีพตรวจสอบตำแหน่งเหล็กเสริมด้วย Ground Penetrating Radar เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบตำแหน่งเหล็กเสริม ลวดอัดแรง หรือวัสดุโลหะ และอโลหะต่างๆ

รวมถึงช่องว่าง โพรงในโครงสร้างคอนกรีต และหาระยะหุ้มเหล็กเสริม หรือลวดอัดแรงได้ วึ่งเป็นการทดสอบแบบไม่ทำลาย ( Non-Destructive Test, NDT )

งานบริการวิชาชีพ คอริ่ง พื้น และ ผนัง ( CORING FLOOR  AND WALL )

 
งานบริการวิชาชีพ บริหารการควบคุมงานก่อสร้างโครงสร้างฐานราก เข็มตอกและเข็มเจาะ บ้านเดี่ยว อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม

เกร็ดความรู้เรื่องเข็ม ฐานรากและการทรุดเอียง แตกร้าวแตกร้าวของอาคาร

      เกร็ดความรู้ งานสำรวจสภาพการทรุดตัวของอาคารควรกระทำเมื่อ
1. สงสัยในความมั่นคงปลอดภัยของอาคารที่เกี่ยวกับระบบฐานราก
2. มีรอยร้าวที่บ่งชี้ว่าฐานรากอาจเกิดการทรุดตัว
3. มีผลกระทบจากบริเวณข้างเคียงและสงสัยว่าฐานรากของอาคารอาจขยับตัว
4. ต้องการทราบความเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการเสริมฐานราก
      ฐานรากหรือเสาเข็มเมื่อรับน้ำหนักบรรทุกย่อมเกิดการทรุดตัว แต่การทรุดตัวที่เกิดขึ้น
ควรอยู่ในเกณฑ์ที่จะไม่ทำให้อาคารเกิดการแตกร้าวหรือวิบัติได้ มีข้อควรพิจรณาประกอบคือ
1. เสาเข็มหรือฐานรากในอาคารไม่ควรทรุดตัวเเตกต่างกันมากเกินไป
2. เสาเข็มหรือฐานรากต้องไม่ทรุดตัวแบบต่อเนื่อง
3. เมื่อน้ำหนักบรรทุกไม่เปลี่ยนแปลงอัตราการทรุดตัวควรมีค่าลดลง
     ลักษณะการทรุดตัวของอาคาร
ปัญหาเรื่องการทรุดตัวของอาคารนั้นมีให้พบเห็นกันมากทั้งในกรุงเทพมหานครเเละต่างจังหวัด
ลักษณะการทรุดตัวของอาคารอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับส่วนประกอบต่างๆที่ส่งผลกระทบ
กับระบบฐานรากของอาคาร ซึ่งพอจะสรุปลักษณะการทรุดตัวของอาคารได้เป็น 2 แบบคือ
1. อาคารทรุดตัวในแนวดิ่ง
2. อาคารทรุดเอียง
     1. อาคารทรุดตัวเเนวดิ่ง อาคารเกิดการทรุดตัวแต่รูปทรงของอาคารโดยรวมยังคงอยู่ในแนดิ่ง
และยังแบ่งได้เป็นสองแบบคือ
     1.1 ฐานรากทั้งหมดในอาคารทรุดตัว เป็นการทรุดตัวพร้อมๆกัน ค่าการทรุดตัวใกล้เคียงกัน
แต่มีปริมาณการทรุดตัวมาก มักจะเกิดขึ้นจากการใช้เข็มสั้นที่ปลายเข็มอยู่ในชั้นดินอ่อนมาก
ลักษณะการทรุดตัวเช่นนี้จะไม่ค่อยมีรอยร้าวเกิดขึ้น อาคารจะค่อยๆจมลงดิน โดยทั่วไปจะพบว่ามีปัญหาการทรุดตัว
ในระหว่างที่ทำการก่อสร้าง และถ้ายังคงสร้างอาคารต่อไปจนถึงสภาวะหนึ่งที่น้ำหนักบรรทุกเกินกำลังแบกทาน
ของเสาเข็มมากๆ จะทรุดจมแบบฉับพลันทั้งหลัง
     1.2 ฐานรากในอาคารทรุดตัวไม่เท่ากัน การทรุดตัวเเบบนี้อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุประกอบกัน
เช่น ฐานรากหรือเสาเข็มรับน้ำหนักบรรทุกแตกต่างกันมาก เสาเข็มบางต้นมีความบกพร่อง ฐานรากบางฐานเกิดการเยื้องศูนย์
หรือปลายเสาเข็มอยู่บนดินต่างชนิดกัน เมื่อฐานรากเกิการทรุดตัวไม่เท่ากันจะทำให้โครงสร้างบิดตัวแตกร้าว
อาคารที่มีปัญหาการทรุดตัวแบบนี้มักจะพบผนังแตกร้าวเป็นเเนวเฉียงอย่างชัดเจน
      2. อาคารทรุดเอียง เกิดจากฐานรากของอาคารส่วนใหญ่เยื้องศูนย์ เเละเยื้องศูนย์ไปในทิศทางเดียวกัน
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากการก่อสร้างที่มีการวางตำแหน่งเสาเข็มผิดพลาด หรือ อาจเกิดจากเสาเข็มส่วนใหญ่ในอาคารเป็นเสาเข็มประเภท
รับเเรงเสียดทาน (Friction Pile) ที่ไม่สามารถรับน้ำหนักบรรทุกตามต้องการได้ เพราะสภาพดินมีความแปรปรวน
หรือมีน้ำหนักบรรทุกกดลงบนฐานรากกลุ่มใดกลุ่มหนี่งมากเกินไป ทำให้อาคารด้านหนึ่งทรุดจมลงมากกว่าอีกด้านหนึ่ง
เมื่ออาคารทรุดจมลงด้านหนึ่งอีกด้านหนึ่งของอาคารจะถูกยกขึ้น การทรุดตัวของอาคารแบบนี้มักจะไม่เกิดการแตกร้าวที่โครงสร้าง
แม้แต่รอยร้าวที่ผนังก็เกิดขึ้นน้อยมาก รอยแตกร้าวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่เสาตอม่อ หรือเสาเข็มบริเวณด้านของอาคารที่ถูกยกขึ้น

        สาเหตุการทรุดตัว  การทรุดตัวของฐานรากส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจาก

1. เสาเข็มสั้นเกินไป ปลายเสาเข็มอยู่ในชั้นดินอ่อนซึ่งรับแรงแบกทานได้น้อย ดินโดยรอบเสาเข็มอยู่ในสภาพที่ยุบตัวหรือเคลื่อนตัวได้ง่ายเมื่อมีเเรงมากระทำ

ดังนั้นเมื่อมีน้ำหนักส่งผ่านจากเสาเข็มลงสู่ดินหรือระดับของน้ำใต้ดินลดต่ำลง ดินจะยุบตัวมากและเป็นผลให้เสาเข็มทรุดตัวตามไปด้วย

2. เสาเข็มบกพร่อง เสาเข็มแตกหักหรือขาดจากกันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาคารมีปัญหาเรื่องการทรุดตัว ส่วนมากเสาเข็มจะแตกหัก

หรือเกิดความชำรุดบกพร่องในขณะที่ติดตั้งลงดิน เมื่อเสาเข็มชำรุดจะไม่สามารถส่งผ่านน้ำหนักลงไปยังดินเเข็งที่อยู่ลึกลงไปได้

3. ฐานรากเยื้องศูนย์ ศูนย์กลางของเสาเข็มหรือของกลุ่มเสาเข็มไม่ตรงกับตำแหน่งเสาของอาคาร กรณีเช่นนี้จะพบเห็นมากกับอาคารที่ใช้เข็มเดี่ยว

เมื่อเสาของอาคารไม่ตรงกับเสาเข็มจะทำให้ฐานรากพลิกตัว หากสภาพเช่นนี้เกิดขึ้นกับฐานรากส่วนใหญ่ในอาคาร อาคารทั้งหลังจะทรุดเอียง

และการทรุดเอียงลักษณะเช่นนี้มักจะไม่ค่อยพบเห็นรอยแตกร้าวที่โครงสร้างส่วนบน แต่จะไปพบรอยแตกร้าวที่ฐานรากหรือเสาตอม่อด้านที่ถูกดึงขึ้น

ปรากฎเป็นรอยแตกร้าวแนวนอน(HORIZONTAL CRACK) การที่โครงสร้างส่วนบนไม่แตกร้าวนัั้นเป็นเพราะฐานรากทรุดเอียงตามกันจึงไม่เกิดเเรง

ดึงรั้งภายใน แต่การทรุดตัวจะไปงัดหรือดัดเสาตอม่อ ฐานรากเเละเสาเข็มด้านที่ทรุดตัวน้อยที่สุดให้บิดงอ จึงเกิดรอยแตกร้าวขึ้นตรงตำแหน่งนั้น

4. ปลายเสาเข็มอยู่บนดินต่างชนิดกัน โดยทั่วไปที่มีการกำหนดให้เสาเข็มในอาคารยาวเท่ากันทั้งหมดนั้นยังไม่ถูกต้องนัก เพราะการกำหนดเช่นนั้น

หากระดับของชั้นดินไม่ได้อยู่ในแนวราบจะทำให้ปลายเสาเข็มอยู่บนดินต่างชนิดกันได้ ปลายเสาเข็มบางส่วนของอาคารอาจอยู่ในดินเหนียวเเข็งหรือชั้นทรายแน่น

แต่ปลายเสาเข็มอีกส่วนหนึ่งอาจอยู่ในดินอ่อน ทำให้ฐานรากของอาคารทรุดตัวเเตกต่างกันได้

5. เกิดการเคลื่อนตัวของดิน การเคลื่อนตัวของดินมักจะเกิดจากผลกระทบจากภายนอก เช่น มีการขุดดินบริเวณข้างเคียงทำให้ดินเคลื่อนตัวดันเสาเข็มของอาคาร

ให้เคลื่อนจากตำแหน่งเดิม เป็นสาเหตุการทรุดตัวที่มักจะเกิดขึ้นภายหลังจากการสร้างอาคารเสร็จเรียบรีอยแล้ว

6. เสาเข็มรับน้ำหนักไม่ได้ตามความต้องการ หากไม่มีการเจาะสำรวจสภาพชั้นดิน แต่อาศัยข้อมูลจากการบอกกล่าวเล่าว่า เคยใช้เข็มยาวเท่านั้นเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

หรือเชื่อมั่นข้อมูลจากอาคารข้างเคียงมากเกินไป อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เช่น ไม่ทราบมาก่อนว่าบริเวณที่จะทำการก่อสร้างนั้นเคยเป็นบึงน้ำหรือบ่อมาก่อน

หากเป็นบ่อน้ำแล้วมีการถมดินใหม่ ดินใหม่ยังอยู่ในสภาพไม่เเน่นตัว นอกจากจะไม่ช่วยรับน้ำหนักแล้วยังเป็นน้ำหนักบรรทุกกดลงบนเสาเข็ม(NEGATIVE SKIN FRICTION)ด้วย

เสาเข็มจึงรับน้ำหนักไม่ได้ตามที่คาดหมายไว้ ดังนั้นถึงแม้จะใช้เสาเข็มชนิดเดียวกันเเละมีความยาวเท่ากับอาคารข้างเคียง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถรับน้ำหนัก

ได้เท่ากับเสาเข็มของอาคารข้างเคียงเสมอไป

CR.เครดิตจากหนังสือประสบการณ์งานเเก้ไขอาคารทรุดและยกอาคาร ดร.ธเนศ วีระศิริ (นายกสภาวิศวกร สมัยที่8 และ อดีตนายกวิศวกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์)